Sunday 23 June 2013

ภัทเทกรัตตคาถา

นำ (หันทะ มะยัง ภัทเทกะรัตตะคาถาโย ภะณามะเส)

อะตีตัง  นานวาคะเมยยะ,
ผู้มีปัญญา  ไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วด้วยอาลัย

นัปปะฏิกังเข  อะนาคะตัง,
ไม่พึงพะวงถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง,

ยะทะตีตัมปะหีนันตัง,
สิ่งใดที่เป็นอดีตก็ละไปแล้ว,

อัปปัตตัญจะ  อะนาคะตัง,
สิ่งที่เป็นอนาคตก็ยังไม่มาถึง,

ปัจจุปันนัญจะ  โย  ธัมมัง,
บุคคลใด  เห็นธรรมอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้า

ตัตถะ  ตัตถะ  วิปัสสะติ,
ในที่นั้น ๆ  อย่างแจ่มแจ้ง,

อะสังหิรัง  อะสังกุปปัง,
ไม่ง่อนแง่น  ไม่คลอนแคลน,

ตัง  วิทธา  มะนุพรูหะเย,
บุคคนั้น  ได้รู้ความนั้นแล้ว  ควรเจริญไว้เนือง ๆ ,

อัชเชวะ  กิจจะมาตัปปัง,
ความเพียรเผากิเลสเป็นกิจที่ต้องทำในวันนี้,

โก  ชัญญา  มะระณัง  สุเว,
ใครเล่าจะพึงรู้ว่า ความตายจะมีในวันพรุ่งนี้,

นะ  หิโน  สังคะรันเตนะ
เพราะการผัดผ่อนต่อพญามัจจุราชซึ่งมีเสนา

มะหาเสเนนะ  มัจจุนา,
มาก  ย่อมไม่มีสำหรับเรา,

เอวัง  วิหาริมาตาปิง
มุนีผู้สงบระงับ  ย่อมกล่าวเรียกบุคคลผู้มี

อะโหรัตตะมะตันทิตัง
ธรรมเป็นเครื่องอยู่  ผู้มีความเพียรอันเผา-

ตัง  เว  ภัทเทกะรัตโตติ
กิเลส  ไม่เกียจคร้านทั้งกลางวันและกลางคืน

สันโต  อาจิกขะเต  มุนีติ.
ว่าเป็นผู้เจริญ  แม้เพียงราตรีเดียวก็น่าชม ดังนี้.


                                                                                 

คัดลอกจาก.....หนังสือธรรมานุสรณ์
                        ทำวัตร สวดมนต์ ธรรมภาวนา
                        วัดถ้ำแฝด ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี


No comments:

Post a Comment

Note: only a member of this blog may post a comment.