Saturday 22 June 2013

เขมาเขมสรณทีปิกคาถา

นำ  (หันทะ  มะยัง  เขมาเขมะสะระณะทีปิกะคาถาโย  ภะณามะ  เส)

พะหุง  เว  สะระณัง  ยันติ  ปัพพะ-
มนุษย์ทั้งหลายส่วนมากเมื่อเกิดมีภัยคุกคาม

ตานิ  วะนานิ  จะ  อารามะรุกขะเจต-
แล้ว ก็ถือเอาภูเขาบ้าง  ป่าไม้บ้าง  อารามบ้าง

ยานิ  มะนุสสา  ภะยะตัชชิตา,
และรุกขเจดีย์บ้าง เป็นสรณะ,

เนตัง  โข  สะระณัง  เขมัง  เนตัง
นั่นมิใช่สรณะอันเกษมเลย  นั่นมิใช่สรณะ

สะระณะมุตตะมัง  เนตัง  สะระณะ-
อันสูงสุด  เขาอาศัยสรณะนั่นแล้ว  ย่อมไม่พ้น

มาคัมมะ สัพพะทุกขา  ปะมุจจะติ,
จากทุกข์ทั้งปวง,

โย  จะ  พุทธัญจะ  ธัมมัญจะ
ส่วนผู้ใดถือเอาพระพุทธเจ้า  พระธรรมเจ้า

สังหัญจะ  สะระณัง  คะโต  จัตตาริ
พระสงฆเจ้า  ว่าเป็นสรณะแล้ว  เห็นอริยสัจจ์

อะริยะสัจจานิ  สัมมัปปัญญายะ
คือความจริงอันประเสริฐทั้งสี่  ด้วยปัญญา

ปัสสะติ,
อันชอบ,

ทุกขัง  ทุกขะสะมุปปาทัง  ทุกขัสสะ
คือเห็นความทุกข์  เหตุให้เกิดทุกข์  ความ

จะ  อะติกกะมัง,
ก้าวล่วงทุกข์เสียได้,

อะริยัญจัฎฐังคิกัง  มัคคัง
แหละหนทางมีองค์แปด  อันประเสริฐเป็น-

ทุกขูปะสะมะคามินัง,
เครื่องถึงความระงับทุกข์,

เอตัง  โข  สะระณัง  เขมัง  เอตัง
นั่นแหละ เป็นสรณะอันเกษม  นั่นเป็นสรณะ

สะระณะมุตตะมัง  เอตัง  สะระณะ-
อันสูงสุด  เขาอาศัยสรณะ นั่นแล้ว  ย่อมพ้น

มาคัมมะ  สัพพะทุกขา  ปะมุจจะตีติ.
จากทุกข์ทั้งปวงได้  ดังนี้.

                                                                                                       


คัดลอกจาก.....หนังสือธรรมานุสรณ์
                        ทำวัตร สวดมนต์ ธรรมภาวนา
                        วัดถ้ำแฝด ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี






No comments:

Post a Comment

Note: only a member of this blog may post a comment.