(เมตตานิสังสะสุตตะปาโฐ)
เอวัม เม สุตัง
ข้าพเจ้า (คือ พระอานนท์เถระ) ได้สดับมาแล้วอย่างนี้,
เอกัง สะมะยัง ภะคะวา,
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า,
สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน
เสด็จประทับอยู่ที่เชตวันมหาวิหาร ซึ่งเป็น
อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม,
อารามของอนาถบิณฑิกคฤหบดี ใกล้เมืองสาวัตถี,
ตัตระโข ภะคะวา ภิกขุ อามันเตสิ
ในกาลนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสเรียก
ภิกขะโวติ,
พระภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย,
ปัจจัสโสสุง, ภะคะวา เอตะทะโวจะ,
ผู้เจริญ,
เมตตายะ ภิกขะเว เจโตวิมุตติยา,
ดูก่อน ภิกษุทั้งหลายเมตตาอันเป็นไปเพื่อความหลุดพ้นแห่งจิตนี้,
อาเสวิตายะ ภาวิตายะ,
อันบุคคลบำเพ็ญจนคุ้นแล้ว ทำให้มากแล้ว,
พะหุลีกะตายะ ยานีกะตายะ,
ทำให้มากแล้ว คือ ชำนาญให้เป็นยวดยานของใจ,
วัตถุกะตายะ อะนุฏฐิตายะ,
ให้เป็นที่อยู่ของใจตั้งไว้เป็นนิตย์,
เอกาทะสานิสังสา ปาฏิกังขา,
ย่อมมีอานิสงส์ สิบเอ็ดประการ,
กะตะเม เอกาทะสะ,
อานิสงส์สิบเอ็ดประการ อะไรบ้าง,
๑. สุขัง สุปะติ, คือ (ผู้เจริญเมตตาจิตนั้น) หลับอยู่ก็เป็นสุขสบาย,
๒. สุขัง ปะฏิพุชฌะติ, ตื่นขึ้นก็เป็นสุขสบาย,
๓. นะปาปะกัง สุปินัง ปัสสะติ, ไม่ฝันร้าย,
๔. มะนุสสานัง ปิโย โหติ, เป็นที่รักของเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย,
๕. อะมะนุสสานัง ปิโย โหติ, เป็นที่รักของเหล่าอมนุษย์ทั่วไป,
๖. เทวะตารักขันติ, เทวดาย่อมคุ้มครองรักษา,
๗. นาสสะอัคคิ วา วิสัง วา ไฟก็ดี ยาพิษก็ดี ศัตราก็ดี ย่อมไม่ทำอันตราย
สัตถัง วา กะมะติ, ไม่ได้,
๘. ตุวะฏัง จิตตัง สะมาธิยะติ, จิตย่อมเป็นสมาธิได้รวดเร็ว,
๙. มุขะวัณโณ วิปปะสีทะติ, ผิวหน้าย่อมผ่องใส,
๑๐. อะสัมมุฬโห กาลัง กะโรติ, เป็นผู้ไม่ลุ่มหลง กาลกิริยาตาย,
๑๑. อะปะริง อัปปะฏิวิชณันโต เมื่อยังไม่บรรลุคุณวิเศษ อันยิ่ง ๆ ขึ้นไป
พรหมโร กูปะโต โหติ. ย่อมเป็นผู้เข้าถึงพรหมโลก แล,
เมตตายะ ภิกขะเว เจโต ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เมตตาอันเป็นไปเพื่อ
วิมุตติยา, ความหลุดพ้นแห่งจิตนี้,
อาเสวิตายะ ภาวิตายะ, อันบุคคลบำเพ็ญจนคุ้นแล้ว ทำให้มากแล้ว,
พะหุลีกะตายะ ยานีกะตายะ, ทำให้มากแล้ว คือ ชำนาญให้เป็นยวดยาน
ของใจ,
วัตถุกะตายะ อะนุฏฐิตายะ, ทำให้เป็นที่อยู่ของใจ ตั้งไว้เป็นนิจ,
ปะริจิตายะ สุสะมารัทธายะ, อันบุคคลสั่งสมอบรมแล้ว บำเพ็ญให้มากแล้ว,
อิเม เอกาทะสานิสังสา ปาฏิกังขาติ, ย่อมมีอานิสงส์สิบเอ็ดประการ,
อิทะมะโว จะ ภะคะวา, พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสธรรมปริยายอันนี้แล้ว,
อัตตะมะนา เต ภิกขู ภะคะวะโต, พระภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ก็มีใจยินดี พอใจ,
ภาสิตัง อะภินันทุนติ, ในภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น,
อิติ. ด้วยประการฉะนี้ แล.
จาก....หนังสือธรรมานุสรณ์
วัดถ้ำแฝด ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
เอวัม เม สุตัง
ข้าพเจ้า (คือ พระอานนท์เถระ) ได้สดับมาแล้วอย่างนี้,
เอกัง สะมะยัง ภะคะวา,
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า,
สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน
เสด็จประทับอยู่ที่เชตวันมหาวิหาร ซึ่งเป็น
อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม,
อารามของอนาถบิณฑิกคฤหบดี ใกล้เมืองสาวัตถี,
ตัตระโข ภะคะวา ภิกขุ อามันเตสิ
ในกาลนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสเรียก
ภิกขะโวติ,
พระภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย,
ปัจจัสโสสุง, ภะคะวา เอตะทะโวจะ,
ผู้เจริญ,
เมตตายะ ภิกขะเว เจโตวิมุตติยา,
ดูก่อน ภิกษุทั้งหลายเมตตาอันเป็นไปเพื่อความหลุดพ้นแห่งจิตนี้,
อาเสวิตายะ ภาวิตายะ,
อันบุคคลบำเพ็ญจนคุ้นแล้ว ทำให้มากแล้ว,
พะหุลีกะตายะ ยานีกะตายะ,
ทำให้มากแล้ว คือ ชำนาญให้เป็นยวดยานของใจ,
วัตถุกะตายะ อะนุฏฐิตายะ,
ให้เป็นที่อยู่ของใจตั้งไว้เป็นนิตย์,
เอกาทะสานิสังสา ปาฏิกังขา,
ย่อมมีอานิสงส์ สิบเอ็ดประการ,
กะตะเม เอกาทะสะ,
อานิสงส์สิบเอ็ดประการ อะไรบ้าง,
๑. สุขัง สุปะติ, คือ (ผู้เจริญเมตตาจิตนั้น) หลับอยู่ก็เป็นสุขสบาย,
๒. สุขัง ปะฏิพุชฌะติ, ตื่นขึ้นก็เป็นสุขสบาย,
๓. นะปาปะกัง สุปินัง ปัสสะติ, ไม่ฝันร้าย,
๔. มะนุสสานัง ปิโย โหติ, เป็นที่รักของเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย,
๕. อะมะนุสสานัง ปิโย โหติ, เป็นที่รักของเหล่าอมนุษย์ทั่วไป,
๖. เทวะตารักขันติ, เทวดาย่อมคุ้มครองรักษา,
๗. นาสสะอัคคิ วา วิสัง วา ไฟก็ดี ยาพิษก็ดี ศัตราก็ดี ย่อมไม่ทำอันตราย
สัตถัง วา กะมะติ, ไม่ได้,
๘. ตุวะฏัง จิตตัง สะมาธิยะติ, จิตย่อมเป็นสมาธิได้รวดเร็ว,
๙. มุขะวัณโณ วิปปะสีทะติ, ผิวหน้าย่อมผ่องใส,
๑๐. อะสัมมุฬโห กาลัง กะโรติ, เป็นผู้ไม่ลุ่มหลง กาลกิริยาตาย,
๑๑. อะปะริง อัปปะฏิวิชณันโต เมื่อยังไม่บรรลุคุณวิเศษ อันยิ่ง ๆ ขึ้นไป
พรหมโร กูปะโต โหติ. ย่อมเป็นผู้เข้าถึงพรหมโลก แล,
เมตตายะ ภิกขะเว เจโต ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เมตตาอันเป็นไปเพื่อ
วิมุตติยา, ความหลุดพ้นแห่งจิตนี้,
อาเสวิตายะ ภาวิตายะ, อันบุคคลบำเพ็ญจนคุ้นแล้ว ทำให้มากแล้ว,
พะหุลีกะตายะ ยานีกะตายะ, ทำให้มากแล้ว คือ ชำนาญให้เป็นยวดยาน
ของใจ,
วัตถุกะตายะ อะนุฏฐิตายะ, ทำให้เป็นที่อยู่ของใจ ตั้งไว้เป็นนิจ,
ปะริจิตายะ สุสะมารัทธายะ, อันบุคคลสั่งสมอบรมแล้ว บำเพ็ญให้มากแล้ว,
อิเม เอกาทะสานิสังสา ปาฏิกังขาติ, ย่อมมีอานิสงส์สิบเอ็ดประการ,
อิทะมะโว จะ ภะคะวา, พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสธรรมปริยายอันนี้แล้ว,
อัตตะมะนา เต ภิกขู ภะคะวะโต, พระภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ก็มีใจยินดี พอใจ,
ภาสิตัง อะภินันทุนติ, ในภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น,
อิติ. ด้วยประการฉะนี้ แล.
จาก....หนังสือธรรมานุสรณ์
วัดถ้ำแฝด ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
No comments:
Post a Comment
Note: only a member of this blog may post a comment.