ตัสมาติหะ ภิกขะเว,
เพราะเหตุนั้นแล ภิกษุทั้งหลาย,
ยังกิญจิ รูปัง,
รูปอย่างใดอย่างหนึ่ง,
อะตีตานาคะตะปัจจุปปันนัง,
ที่เป็นอดีตก็ดี อนาคตก็ดี ปัจจุบันก็ดี,
อัชฌัตตัง วา พะหิทธา วา,
ภายในก็ดี ภายนอกก็ดี,
โอฬาริกัง วา สุขุมัง วา,
หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี,
หีนัง วา ปะณีตัง วา,
เลวก็ดี ประณีตก็ดี,
ยันทูเร สันติเก วา,
อันใดมีในที่ไกลก็ดี ในที่ใกล้ก็ดี,
สัพพัง รูปัง,
รูปทั้งหมดก็เป็นสักว่ารูป,
เนตัง มะมะ,
นั่นไม่ใช่ของเรา,
เนโสหะมัสมี,
เราไม่เป็นนั่นเป็นนี่,
นะ เมโส อัตตาติ,
นั่นไม่ใช่ตนของเรา ดังนี้,
เอวะ เมตัง ยะถาภูตัง,
ข้อนี้ท่านทั้งหลาย พึงเห็นด้วยปัญญา
สัมมัปปัญญายะ ทัฏฐัพพัง,
อันชอบ ตามเป็นจริงแล้วอย่างนี้,
ยากาจิ เวทะนา,
เวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง,
อะตีตานาคะตะปัจจุปปันนา,
ที่เป็นอดีตก็ดี อนาคตก็ดี ปัจจุบันก็ดี,
อัชฌัตตัง วา พะหิทธา วา,
ภายในก็ดี ภายนอกก็ดี,
โอฬาริกา วา สุขุมา วา,
หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี,
หีนา วา ปะณีตา วา,
เลวก็ดี ประณีตก็ดี,
ยา ทูเร สันติเก วา,
อันใดมีในที่ไกลก็ดี ในที่ใกล้ก็ดี,
สัพพา เวทะนา,
เวทนาทั้งหมดก็เป็นสักว่าเวทนา,
เนตัง มะมะ,
นั่นไม่ใช่เรา
เนโสหะมัสมี,
เราไม่เป็นนั่นเป็นนี่,
เอวะเมตัง ยะถาภูตัง
ข้อนี้อันท่านทั้งหลาย พึงเห็นด้วยปัญญา
สัมมัปปัญญายะ ทัฏฐัพพัง,
อันชอบตามเป็นจริงแล้วอย่างนี้,
ยากาจิ สัญญา,
สัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง,
อะตีตานาคะตะปัจจุปันนา,
ที่เป็นอดีตก็ดี อนาคตก็ดี ปัจจุบันก็ดี,
อัชฌัตตังวา พะหิทธา วา,
ภายในก็ดี ภายนอกก็ดี,
โอฬาริกา วา สุขุมา วา,
หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี,
หีนา วา ปะณีตา วา,
เลวก็ดี ประณีตก็ดี,
ยา ทูเร สันติเก วา,
อันใดมีในที่ไกลก็ดี ในที่ใกล้ก็ดี,
สัพพา สัญญา,
สัญญาทั้งหมดก็เป็นสักว่าสัญญา,
เนตัง มะมะ,
นั่นไม่ใช่ของเรา,
เนโสหะมัสมิ,
เราไม่เป็นนั่นเป็นนี่,
นะ เมโส อัตตาติ,
นั่นไม่ใช่ตนของเรา ดังนี้,
เอวะเมตัง ยะถาภูตัง,
ข้อนี้อันท่านทั้งหลาย พึงเห็นด้วยปัญญา
สัมมัปปัญญายะ ทัฏฐัพพัง,
อันชอบด้วย ตามเป็นจริงแล้วอย่างนั้น,
เย เกจิ สังขารา,
สังขารทั้งหลายเหล่าใดเหล่าหนึ่ง,
อะตีตานาคะตะปัจจุปปันนา,
ที่เป็นอีตก็ดี อนาคตก็ดี ปัจจุบันก็ดี,
อัชฌัตตังวา พะหิทธา วา,
ภายในก็ดี ภายนอกก็ดี,
โอฬาริกกา วา สุขุมา วา,
หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี,
หีนา วา ปะณีตา วา,
เลวก็ดี ประณีตก็ดี,
เย ทูเร สันติเก วา,
เหล่าใด มีในที่ไกลก็ดี ในที่ใกล้ก็ดี,
สัพเพ สังขารา,
สังขารทั้งหลายทั้งหมด ก็เป็นสักว่าสังขาร,
เนตัง มะมะ,
นั่นไม่ใช่ของเรา,
เนโสหะมัสมิ,
เราไม่เป็นนั่นเป็นนี่,
นะ เมโส อัตตาติ,
นั่นไม่ใช่ตนของเราดังนี้,
เอวะเมตัง ยะถาภูตัง
ข้อนี้อันท่านทั้งหลาย พึงเห็นด้วยปัญญา
สัมมัปปัญญายะ ทัฏฐัพพัง,
อันชอบตามเป็นจริงแล้วอย่างนั้น,
ยัง กิญจิ วิญญาณัง,
วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง,
อะตีตานาคะตะปัจจุปปันนัง,
ที่เป็นอดีตก็ดี อนาคตก็ดี ปัจจุบันก็ดี,
อัชฌัตตัง วา พิหิทธา วา,
ภายในก็ดี ภายนอกก็ดี,
โอฬาริกัง วา สุขุมา วา,
หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี,
หีนัง วา ปะณีตัง วา,
เลวก็ดี ประณีตก็ดี,
ยันทูเร สันติเก วา,
อันใดมีในที่ไกลก็ดี ในที่ใกล้ก็ดี,
สัพพัง วิญญาณัง,
วิญญาณทั้งหมด ก็เป็นสักว่าวิญญาณ,
เนตัง มะมะ,
นั่นไม่ใช่ของเรา,
เนโสหะมัสมิ,
เราไม่เป็นนั่นเป็นนี่,
นะ เมโส อัตตาติ,
นั่นไม่ใช่ตัวตนของเราดังนี้
เอวะเมตัง ยะถาภูตัง
ข้อนี้อันท่านทั้งหลาย พึงเห็นด้วยปัญญา
สัมมัปปัญญายะ ทัฏฐัพพัง,
อันชอบ ตามเป็นจริงแล้วอย่างนั้น ดังนี้,
เอวัง ปัสสัง ภิกขะเว
ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย อริยะสาวกผู้ได้สดับ
สุตวา อะริยะสาวะโก,
แล้วเห็นอยู่อย่างนี้,
รูปัสมิงปิ นิพพินทะติ,
ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในรูป,
เวทะนายะปิ นิพพินทะติ,
ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในเวทนา,
สัญญายะปิ นิพพินทะติ,
ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในสัญญา,
สังขาเรสุปิ นิพพินทะติ,
ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในสังขารทั้งหลาย,
วิญญาณัสมิงปิ นิพพินทะติ,
ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในวิญญาณ,
นิพพินทัง วิรัชชะติ,
เมื่อเบื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัด,
วิราคา วิมุจจะติ,
เพราะคลายกำหนัด จิตก็พ้นจากความยึดมั่นถือมั่น,
วิมุตตัสมิง วิมุตตะมิติ ญาณัง โหติ,
เมื่อจิดพ้นแล้ว ก็เกิดญาณหยั่งรู้ว่าเราพ้นแล้วดังนี้,
ขีณา ชาติ วุสิตัง พรหมะจะริยัง
อริยะสาวกนั้นย่อมทราบชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว
กะตัง กะระณียัง นาปะรัง
พรหมจรรย์เราได้อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ
อิตถัตตายาติ ปะชานาตีติ,
เราได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นอีกเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี,
อิทะมะโวจะ ภะคะวา,
พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสธรรมปริยายสูตรอันนี้จบลงแล้ว,
อัตตะมะนา ปัญจะวัคคิยา ภิกขู,
พระภิกษุปัญจวัคคีย์ก็มีใจยินดี,
ภะคะวะโต ภาสิตัง อะภินันทุง,
เพลิดเพลินภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า,
อิมัสมิญจะ ปะนะ เวยยะ
ก็แล เมื่อไวยยากรณ์ (เป็นผู้กระทำซึ่งอรรถะ
กะระณัสมิง ภัญญะมาเน,
ทั้งหลายให้แจ่มแจ้ง) นี้ อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอยู่,
ปัญจะวัคคิยานัง ภิกขูนัง
จิตของพระภิกษุปัญจวัคคีย์
อะนุปาทายะ, อาสะเวหิ จิตตานิ
พ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย
วิมุจจิงสูติ.
ไม่ถือมั่นด้วยอุปาทาน ดังนี้แล.
จบ อนัตตลักขณสูตร
..................................................
คัดลอกจาก......หนังสือธรรมานุสรณ์
ทำวัตร สวดมนต์ ธรรมภาวนา
วัดถ้ำแฝด ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
เพราะเหตุนั้นแล ภิกษุทั้งหลาย,
ยังกิญจิ รูปัง,
รูปอย่างใดอย่างหนึ่ง,
อะตีตานาคะตะปัจจุปปันนัง,
ที่เป็นอดีตก็ดี อนาคตก็ดี ปัจจุบันก็ดี,
อัชฌัตตัง วา พะหิทธา วา,
ภายในก็ดี ภายนอกก็ดี,
โอฬาริกัง วา สุขุมัง วา,
หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี,
หีนัง วา ปะณีตัง วา,
เลวก็ดี ประณีตก็ดี,
ยันทูเร สันติเก วา,
อันใดมีในที่ไกลก็ดี ในที่ใกล้ก็ดี,
สัพพัง รูปัง,
รูปทั้งหมดก็เป็นสักว่ารูป,
เนตัง มะมะ,
นั่นไม่ใช่ของเรา,
เนโสหะมัสมี,
เราไม่เป็นนั่นเป็นนี่,
นะ เมโส อัตตาติ,
นั่นไม่ใช่ตนของเรา ดังนี้,
เอวะ เมตัง ยะถาภูตัง,
ข้อนี้ท่านทั้งหลาย พึงเห็นด้วยปัญญา
สัมมัปปัญญายะ ทัฏฐัพพัง,
อันชอบ ตามเป็นจริงแล้วอย่างนี้,
ยากาจิ เวทะนา,
เวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง,
อะตีตานาคะตะปัจจุปปันนา,
ที่เป็นอดีตก็ดี อนาคตก็ดี ปัจจุบันก็ดี,
อัชฌัตตัง วา พะหิทธา วา,
ภายในก็ดี ภายนอกก็ดี,
โอฬาริกา วา สุขุมา วา,
หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี,
หีนา วา ปะณีตา วา,
เลวก็ดี ประณีตก็ดี,
ยา ทูเร สันติเก วา,
อันใดมีในที่ไกลก็ดี ในที่ใกล้ก็ดี,
สัพพา เวทะนา,
เวทนาทั้งหมดก็เป็นสักว่าเวทนา,
เนตัง มะมะ,
นั่นไม่ใช่เรา
เนโสหะมัสมี,
เราไม่เป็นนั่นเป็นนี่,
เอวะเมตัง ยะถาภูตัง
ข้อนี้อันท่านทั้งหลาย พึงเห็นด้วยปัญญา
สัมมัปปัญญายะ ทัฏฐัพพัง,
อันชอบตามเป็นจริงแล้วอย่างนี้,
ยากาจิ สัญญา,
สัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง,
อะตีตานาคะตะปัจจุปันนา,
ที่เป็นอดีตก็ดี อนาคตก็ดี ปัจจุบันก็ดี,
อัชฌัตตังวา พะหิทธา วา,
ภายในก็ดี ภายนอกก็ดี,
โอฬาริกา วา สุขุมา วา,
หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี,
หีนา วา ปะณีตา วา,
เลวก็ดี ประณีตก็ดี,
ยา ทูเร สันติเก วา,
อันใดมีในที่ไกลก็ดี ในที่ใกล้ก็ดี,
สัพพา สัญญา,
สัญญาทั้งหมดก็เป็นสักว่าสัญญา,
เนตัง มะมะ,
นั่นไม่ใช่ของเรา,
เนโสหะมัสมิ,
เราไม่เป็นนั่นเป็นนี่,
นะ เมโส อัตตาติ,
นั่นไม่ใช่ตนของเรา ดังนี้,
เอวะเมตัง ยะถาภูตัง,
ข้อนี้อันท่านทั้งหลาย พึงเห็นด้วยปัญญา
สัมมัปปัญญายะ ทัฏฐัพพัง,
อันชอบด้วย ตามเป็นจริงแล้วอย่างนั้น,
เย เกจิ สังขารา,
สังขารทั้งหลายเหล่าใดเหล่าหนึ่ง,
อะตีตานาคะตะปัจจุปปันนา,
ที่เป็นอีตก็ดี อนาคตก็ดี ปัจจุบันก็ดี,
อัชฌัตตังวา พะหิทธา วา,
ภายในก็ดี ภายนอกก็ดี,
โอฬาริกกา วา สุขุมา วา,
หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี,
หีนา วา ปะณีตา วา,
เลวก็ดี ประณีตก็ดี,
เย ทูเร สันติเก วา,
เหล่าใด มีในที่ไกลก็ดี ในที่ใกล้ก็ดี,
สัพเพ สังขารา,
สังขารทั้งหลายทั้งหมด ก็เป็นสักว่าสังขาร,
เนตัง มะมะ,
นั่นไม่ใช่ของเรา,
เนโสหะมัสมิ,
เราไม่เป็นนั่นเป็นนี่,
นะ เมโส อัตตาติ,
นั่นไม่ใช่ตนของเราดังนี้,
เอวะเมตัง ยะถาภูตัง
ข้อนี้อันท่านทั้งหลาย พึงเห็นด้วยปัญญา
สัมมัปปัญญายะ ทัฏฐัพพัง,
อันชอบตามเป็นจริงแล้วอย่างนั้น,
ยัง กิญจิ วิญญาณัง,
วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง,
อะตีตานาคะตะปัจจุปปันนัง,
ที่เป็นอดีตก็ดี อนาคตก็ดี ปัจจุบันก็ดี,
อัชฌัตตัง วา พิหิทธา วา,
ภายในก็ดี ภายนอกก็ดี,
โอฬาริกัง วา สุขุมา วา,
หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี,
หีนัง วา ปะณีตัง วา,
เลวก็ดี ประณีตก็ดี,
ยันทูเร สันติเก วา,
อันใดมีในที่ไกลก็ดี ในที่ใกล้ก็ดี,
สัพพัง วิญญาณัง,
วิญญาณทั้งหมด ก็เป็นสักว่าวิญญาณ,
เนตัง มะมะ,
นั่นไม่ใช่ของเรา,
เนโสหะมัสมิ,
เราไม่เป็นนั่นเป็นนี่,
นะ เมโส อัตตาติ,
นั่นไม่ใช่ตัวตนของเราดังนี้
เอวะเมตัง ยะถาภูตัง
ข้อนี้อันท่านทั้งหลาย พึงเห็นด้วยปัญญา
สัมมัปปัญญายะ ทัฏฐัพพัง,
อันชอบ ตามเป็นจริงแล้วอย่างนั้น ดังนี้,
เอวัง ปัสสัง ภิกขะเว
ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย อริยะสาวกผู้ได้สดับ
สุตวา อะริยะสาวะโก,
แล้วเห็นอยู่อย่างนี้,
รูปัสมิงปิ นิพพินทะติ,
ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในรูป,
เวทะนายะปิ นิพพินทะติ,
ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในเวทนา,
สัญญายะปิ นิพพินทะติ,
ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในสัญญา,
สังขาเรสุปิ นิพพินทะติ,
ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในสังขารทั้งหลาย,
วิญญาณัสมิงปิ นิพพินทะติ,
ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในวิญญาณ,
นิพพินทัง วิรัชชะติ,
เมื่อเบื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัด,
วิราคา วิมุจจะติ,
เพราะคลายกำหนัด จิตก็พ้นจากความยึดมั่นถือมั่น,
วิมุตตัสมิง วิมุตตะมิติ ญาณัง โหติ,
เมื่อจิดพ้นแล้ว ก็เกิดญาณหยั่งรู้ว่าเราพ้นแล้วดังนี้,
ขีณา ชาติ วุสิตัง พรหมะจะริยัง
อริยะสาวกนั้นย่อมทราบชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว
กะตัง กะระณียัง นาปะรัง
พรหมจรรย์เราได้อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ
อิตถัตตายาติ ปะชานาตีติ,
เราได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นอีกเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี,
อิทะมะโวจะ ภะคะวา,
พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสธรรมปริยายสูตรอันนี้จบลงแล้ว,
อัตตะมะนา ปัญจะวัคคิยา ภิกขู,
พระภิกษุปัญจวัคคีย์ก็มีใจยินดี,
ภะคะวะโต ภาสิตัง อะภินันทุง,
เพลิดเพลินภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า,
อิมัสมิญจะ ปะนะ เวยยะ
ก็แล เมื่อไวยยากรณ์ (เป็นผู้กระทำซึ่งอรรถะ
กะระณัสมิง ภัญญะมาเน,
ทั้งหลายให้แจ่มแจ้ง) นี้ อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอยู่,
ปัญจะวัคคิยานัง ภิกขูนัง
จิตของพระภิกษุปัญจวัคคีย์
อะนุปาทายะ, อาสะเวหิ จิตตานิ
พ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย
วิมุจจิงสูติ.
ไม่ถือมั่นด้วยอุปาทาน ดังนี้แล.
จบ อนัตตลักขณสูตร
..................................................
คัดลอกจาก......หนังสือธรรมานุสรณ์
ทำวัตร สวดมนต์ ธรรมภาวนา
วัดถ้ำแฝด ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
No comments:
Post a Comment
Note: only a member of this blog may post a comment.