Wednesday, 24 July 2013

ธัมมะจักกัปปะวัตตนสูตร (หน้า ๒)

*ตังโข  ปะนิทัง  ทุกขัง  อะริยสัจจัง
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว

ปะริญเญยยันติ  เม  ภิกขเว
ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว  ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว

ปุพเพ  อะนะนุสสุเตสุ  ธัมเมสุ
วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว  แสงสว่างได้เกิดขึ้น

จักขุง  อุทะปาทิ  ญาณัง  อุทะปาทิ
แล้วแก่เรา  ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่ได้เคย

ปัญญา  อุทะปาทิ  วิชชา  อุทะปาทิ
ฟังแล้วในกาลก่อนว่า  ก็ทุกขอริยสัจจ์นี้นั้น

อาโลโก  อุทะปาทิ,
แล  ควรกำหนดรู้,

ตังโข  ปะนิทัง  ทุกขัง  อะริยะสัจจัง
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว

ปะริญญาตันติ  เม  ภิกขะเว
ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว  ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว

ปุพเพ  อะนุสสุเตสุ   ธัมเมสุ
วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว  แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้ว

จักขุง  อุทะปาทิ  ญาณัง  อุทะปาทิ
แก่เรา  ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่ได้เคยฟัง

ปัญญา  อุทะปาทิ  วิชา  อุทะปาทิ
แล้วในกาลก่อนว่า  ก็ทุกขอริยสัจจ์นี้นั้นแล

อาโลโก  อุทะปาทิ,
อันเราได้กำหนดรู้แล้ว,

อิทัง  ทุกขะสะมุทะโย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย    จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว

อะริยะสัจจันติ  เม  ภิกขะเว
ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว  ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว

ปุพเพ  อะนะนุสสุเตสุ  ธัมเมสุ
วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว  แสงสว่างได้เกิดขึ้น

จักขุง  อุทะปาทิ  ญาณัง  อุทะปาทิ
แล้วแก่เรา  ในธรรมทั้งหลายท่ี่เราไม่ได้

ปัญญา  อุทะปาทิ  วิชชา  อุทะปาทิ
เคยฟังแล้ว  ในกาลก่อนว่า  นี้ทุกขสมุทัย

อาโลโก  อุทะปาทิ,
อริยสัจจ์,


*ตัง  โข  ปะนิทัง  ทุกขะสะมุทะโย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว

อะริยะสัจจัง  ปะหาตัพพันติ  เม
ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว  ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว

ภิกขะเว  ปุพเพ  อะนะนุสสุเตสุ
วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว  แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้ว

ธัมเมสุ  จักขุง  อุทะปาทิ  ญาณัง
แก่เรา  ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่ได้เคยฟัง

อุทะปาทิ  ปัญญา  อุทะปาทิ  วิชชา
แล้ว  ในกาลก่อนว่า  ก็ทุกขสมุทัย  อริยสัจจ์

อุทะปาทิ  อาโลโก  อุทะปาทิ,
นี้นั้นแล  ควรละเสีย,


*ตัง  โข  ปะนิทัง  ทุกขะสะมุทะโย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว

อะริยะสัจจัง  ปะหีนันติ  เม  ภิกขะเว
ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว  ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว

ปุพเพ  อะนะนุสสุเตสุ  ธัมเมสุ
วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว  แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้ว

จักขุง  อุทะปาทิ  ญาณัง  อุทะปาทิ
แก่เรา  ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่ได้เคยฟัง

ปัญญา  อุทะปาทิ  วิชชา  อุทะปาทิ
แล้วในกาลก่อนว่า  ก็ทุกขสมุทัยอริยสัจจ์นี้

อาโลโก  อุทะปาทิ,
นั้นแล  อันเราได้ละแล้ว,


*อิทัง  ทุกขะนิโรโธ  อะริยะสัจจันติ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว

เม  ภิกขุะเว  ปุพเพ  อะนะนุสสุเตสุ
ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว  ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว

ธัมเมสุ  จักขุง  อุทะปาทิ  ญาณัง
วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว  แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้ว

อุทะปาทิ  ปํญญา  อุทะปาทิ  วิชชา
แก่เรา  ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่ได้เคยฟัง

อุทะปาทิ  อาโลโก  อุทะปาทิ,
แล้วในกาลก่อนว่่า  นี้ทุกขนิโรธอริยสัจจ์,


*ตัง  โข  ปะนิทัง  ทุกขะนิโรโธ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว

อะริยะสัจจัง  สัจฉิกาตัพพันติ  เม
ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว  ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว

ภิกขะเว  ปุพเพ  อะนะนุสสุเตสุ
วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว  แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้ว

ธัมเมสุ  จักขุง  อุทะปาทิ  ญาณัง
แก่เรา  ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่ได้เคยฟัง

อุทะปาทิ  ปัญญา  อุทะปาทิ  วิชชา
แล้วในกาลก่อนว่า  ก็ทุกขนิโรธอริยสัจจ์นี้

อุทะปาทิ  อาโลโก  อุทะปาทิ.
นั้นแล  ควรทำให้แจ้ง,


*ตัง  โข  ปะนิทัง  ทุกขะนิโรโธ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว

อะริยะสัจจัง  สัจฉิกะตันติ  เม
ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว  ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว

ภิกขะเว  ปุพเพ  อะนะนุสสุเตสุ
วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว  แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้ว

ธัมเมสุ  จักขุง  อุทะปาทิ  ญาณัง
แก่เรา  ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่ได้  เคยฟัง

อุทะปาทิ  ปัญญา  อุทะปาทิ  วิชชา
แล้วในกาลก่อนว่า  ก็ทุกขนิโรธอริยสัจจ์นี้นั้น

อุทะปาทิ  อาโลโก  อุทะปาทิ,
แล  อันเราได้ทำให้แจ้งแล้ว,


*อิทัง  ทุกขะนิโรธะคามินี
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว

ปะฏิปะทา  อะริยะสัจจันติ  เม
ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว  ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว

ภิกขะเว  ปุพเพ  อะนะนุสสุเตสุ
วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว  แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้ว

ธัมเมสุ  จักขุง  อุทะปาทิ  ญาณัง
แก่เรา  ในธรรมทั้งหลายที่เราไม่ได้เคยฟัง

อุทะปาทิ  ปัญญา  อุทะปาทิ  วิชชา
แล้วในกาลก่อนว่า  นี้ทุกขนิโรธคามินี  ปฏิ-

อุทะปาทิ  อาโลโก  อุทะปาทิ,
ปทาอริยสัจจ์,

(ยังมีต่ออีก)

No comments:

Post a Comment

Note: only a member of this blog may post a comment.