Wednesday, 5 June 2013

การสวดมนต์เป็นการสร้างบารมี



ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

บางท่านอาจจะสงสัยว่า  การสวดมนต์เพียงแค่ไม่กี่นาทีจะเป็นบารมีได้อย่างไร  ก่อนอื่นต้องเข้าใจคำว่า "บารมี"  แปลว่า ความดีที่ควรบำเพ็ญ  ....บารมีเป็นสภาพธรรมที่จะเกื้อกูลในการที่จะขัดเกลากิเลส  และในการที่จะเพิ่มกำลัง ทำให้สติและปัญญาสามารถที่จะละคลาย  และดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉท

บารมี ๑๐  ประการ  ได้แก่

 ๑. ทานบารมี  หมายถึง การสละหรือการให้ทานตามกาลที่ควรสละ  ขณะที่กำลังสวดมนต์จิตเป็นกุศล ก็เป็นการสละจากอกุศลขณะนั้น  สละจากความยินดีพอใจ ติดข้องต้องการ  สละความโกรธ  สละความไม่สบายใจ  ขณะนั้นเป็นทานบารมี

 ๒. ศีลบารมี  ขณะสวดมนต์จิตเป็นกุศล  วิรัติทุจริตทางกายและวาจา  ไม่ได้กระทำอกุศลกรรมกับใคร    ขณะนั้นมีศีลบริสุทธิ์  เป็นศีลบารมี

๓.  เนกขัมมะบารมี  ขณะที่สวดมนต์จิตไม่คิดไปในกาม  ไม่คิดในทางเบียดเบียนผู้อื่น ไม่คิดไปในทางพยาบาทผู้อื่น ขณะนั้นจิตเป็นกุศล  จึงเป็นเนกขัมมะบารมี

๔. ปัญญาบารมี  ขณะที่สวดมนต์  ถ้าสติเกิดขึ้นระลึกรู้สภาพธรรม ที่กำลังปรากฏขณะนั้นตามความเป็นจริง ว่าเป็นเพียงสิ่งที่เกิดเพราะมีเหตุปัจจัย ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปเป็นธรรมดา ขณะนั้นเป็น ปัญญาบารมี

๔.  วิริยะบารมี  คือ ความเพียร  ความอุตสาหะ  ขณะสวดมนต์จิตประกอบด้วยความเพียรที่เป็นไปในกุศล  ถ้าสติเกิดขึ้นระลึกรู้สภาพธรรม ที่กำลังปรากฏในขณะนี้  ไม่ใช่เราเพียร แต่เป็นวิริยะที่เกิดขึ้นทำกิจของวิริยะ ขณะนั้นเป็นวิริยบารมี

๖.  ขันติบารมี  คือ ความอดทน  อดทนที่จะกระทำความดี  ขณะสวดมนต์จิตประกอบด้วยความอดทนที่จะบำเพ็ญกุศล  มีความอดทนที่จะกระทำความดีให้สำเร็จ  มีความอดทนต่อนิวรณธรรม ขณะนั้นเป็นขันติบารมี

๗.  สัจจะบารมี  คือ เป็นผู้ที่จริงใจและตรงต่อสภาพธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล  พูดจริงทำจริง  ขณะสวดมนต์มีความจริงใจที่จะบำเพ็ญกุศล  ถ้าสติเกิดขึ้นระลึกรู้ ว่าขณะนั้นเป็นสภาพกุศลธรรม  ขณะนั้นเป็นก็สัจจะบารมี

๘.  อธิษฐานบารมี  หลังจากที่สวดมนต์เสร็จแล้ว ก็มีการอธิษฐานจิต  ถ้าปรารถนาไปในทางกุศลที่จะทำให้สามารถอบรมปัญญา ให้ถึงความคมกล้าที่สามารถจะประหารกิเลสเป็นสมุจเฉทได้   การอธิษฐานนั้นก็จะเป็นอธิษฐานบารมี

๙.  เมตตาบารมี  เมตตา คือ ความเป็นมิตรไมตรีกับทุกคน  มีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลต่อผู้อื่นที่มีความทุกข์  ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข  หลังจากที่สวดมนต์เสร็จแล้ว ก็มีการอุทิศส่วนกุศลและแผ่เมตตาให้แก่ผู้อื่น ให้มีส่วนในกุศลที่เราได้บำเพ็ญแล้ว  ถ้าสติเกิดขึ้นระลึกรู้สภาพธรรมขณะนั้นว่า เมตตาเป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะมีเหตุปัจจัย ไม่ใช่เราที่เมตตา  ขณะนั้นเป็นเมตตาบารมี

๑๐.  อุเบกขาบารมี  ขณะสวดมนต์จิตมีความสงบจากอกุศล  วางเฉยต่ออารมณ์ที่น่ายินดีพอใจหรืออารมณ์ที่ไม่น่ายินดีพอใจที่กำลังปรากฏในขณะนั้น  เป็นอุเบกขาบารมี

เห็นมั้ยคะ....แค่สวดมนต์เพียงไม่กี่นาที  เราก็สามารถสร้างบารมีได้ครบทกประการ  ซึ่งการบำเพ็ญบารมีเช่นนี้สามารถเกื้อกูลแก่ท่านที่ไม่ค่อยมีเวลาจะเข้าวัดหรืออยู่ห่างไกลวัด  ก็สามารถปฏิบัติอยู่ที่บ้านได้ทุกวัน  นี่ก็เป็นการสร้างบารมีในชีวิตประจำวัน.

                               ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านและขออุทิศกุศลให้แก่สรรพสัตว์

No comments:

Post a Comment

Note: only a member of this blog may post a comment.